RSS

ขุนรองปลัดชู แม่กองอาทมาท วิเศษไชยชาญ

11 ก.ค.

“เกล้าผมอยากรู้นักว่า มีใครคิดถึงเรื่องของแผ่นดินกันบ้าง…”

“บ้านเมืองช่างดูวังเวงชอบกล”…”มันจะวังเวงกว่านี้ยิ่งขึ้นไปอีก เพราะท้าวพระยาผู้ใหญ่ต้องการอำนาจ มองหาแต่ช่องทางได้เปรียบให้ตัวเอง ยุคนี้มันไม่มีใครเห็นแก่บ้านเมืองจริงๆหรอกแม่จันท์”

“แม้แต่ท่านเจ้าเมือง” แม่จันท์กล่าว

“ท่านเจ้าเมืองก็ต้องเลือกยืนข้างท้าวพระยาฝ่ายใน หากเลือกยืนข้างถูก ผลประโยชน์ก็เหลือคณานับ ท่านเจ้าคุณวิเศษฯก็มีท่าทีเยี่ยงนั้น  กลับกรุงศรีคราวนี้ เรื่องราวอันซับซ้อน ไอ้เรามันเป็นข้าราชการหัวเมืองเล็กๆ ขอเพียงใครมีบุญญาบารมีขึ้นมา ก็ขอให้ผู้นั้นเห็นแก่แผ่นดินเถิด

“กูเหยียบถึงอยุธยาในยามไร้ร่มฉัตร เสียงมโหรีปี่พาทย์ที่เคยประโคมกล่อมยามบ้านดีเมืองดี เพลานั้นกูไม่ได้ยินแล้ว ในมุมมืดกูได้ยินแต่เสียงขยับดาบ ดาบในมือกู กูเป็นคนใช้ แต่กูไม่ได้ใช้ตามใจ เพราะหน้าที่บีบให้กูต้องทำ ทำทั้งๆที่รู้ว่าพวกกูชาววิเศษไชยชาญเป็นเพียงหมากตัวเล็กๆบนกระดานแห่งอำนาจ

“กูใช้ดาบฆ่าคนที่สมควรฆ่า ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ในชีวิตกูไม่เคยคิดจะต้องมาฆ่าคนบ้านเดียวกัน ฆ่าคนทีไม่เคยรู้จัก ฆ่าโดยที่ไม่มีเรื่องแค้นเคืองอาฆาต …. ในวันนั้นเป็นวันที่กูได้เห็นความจริง ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร ดาบใครคมและไวกว่า นั้นแหละคือบทพิสูจน์ของอำนาจ

“อยุธยาเงียบลงแล้วจากเสียงประดาบ เป็นความเงียบงันที่แลกมาด้วยเลือด เลือดที่กูมีส่วนร่วมในการฆ่ากันระหว่างลูกพี่ลูกน้อง ลูกของพระเจ้าแผ่นดินที่กูบูชา..”

“จะมีใครหน้าไหนจะกล้าคิดว่าปีนั้น แผ่นดินจะมีกษัตริย์ขึ้นครองราชย์ถึงสองพระองค์ มันคงเป็นอาเพศ กูว่าเงาร้ายของดาวหางยังครอบงำชะตาเมือง ผู้คนแบ่งฝ่ายแตกแยก มันเริ่มแยกมาจากที่นั้น-จากยอดมงกุฎของแผ่นดิน

“กูไม่อยากคิด อำนาจจะมีพลังเหนือกว่าเลือดพี่น้องร่วมท้อง กูขอภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่าให้ต้องมีส่วนร่วมกรรมครั้งนี้เลย เลือดวิเศษไชยชาญไม่ฆ่ากันเอง คนเฒ่าคนแก่พูดต่อกันมาตั้งแต่-โครตเหง้า กูโล่งใจ อยุธยาไม่ต้องหลั่งเลือดครั้งนี้ เพราะพี่น้องเห็นแก่สายโลหิตมากกว่าอำนาจ”

“มันเป็นภาพที่สะเทือนใจนัก ถ้าพวกมึงได้เห็น แม้นแต่ผ้าเหลืองยังคุ้มครองคนดีไม่ได้ กูเศร้าใจนัก ทำไม่กูต้องตัดสินใจเยี่ยงนี้ กูไม่เคยอยากมีส่วนร่วม  กูเป็นข้าราชการหัวเมืองเล็กๆ ในชีวิตราชการหวังมีโอกาสสนองคุณแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องแย่งชิงอำนาจส่วนตัว ใจกูมันขลาด เห็นแก่ยศตำแหน่ง ตอนแรกกูหมดใจ ท้ออย่างที่ไม่เคยเป็น ทุกเรื่องทุกราวในอยุธยา ยิ่งตอกย้ำให้กูมั่นใจ มันเป็นจริงอย่างที่กูคิด หามีใครรักแผ่นดินจริงๆไม่  มันคิดถึงแต่อำนาจของตนเอง….”

“กูอยากจะบอกต่อพวกมึง ว่าแผ่นดินมันกำลังอ่อนแอ อ่อนแออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเรือนใกล้จะพัง คานใกล้จะขาด เสาผุกร่อนเพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน วันหนึ่งถ้าวันหนึ่งมันต้องเผชิญกับพายุร้าย  แม้นแรงเพียงนิด มันก็ไม่แคล้วต้องพังสลายลง”

“กูมาที่ถึงนี่ด้วยใจที่รักแผ่นดิน แผ่นดินที่เราถือกำเนิด แผ่นดินที่โอบอุ้มเถ้ากระดูกของปู่ย่าตาทวด แผ่นดินที่บรรพบุรุษของเรา เอาชีวิตและเลือดเนื้อปกป้องมา  วันนี้กูมองเห็นแต่ความเสื่อมสลาย ความโทรมทรุดอันเกิดจากความเห็นแก่อำนาจส่วนตัว มากกว่าความรักบ้านเมืองอย่างจริงใจ”

“ความห่วงใยแผ่นดินปลุกให้กูลุกขึ้นมาทุกวัน ลุกขึ้นมาเพื่อบอกกับลูกหลานว่า เราต้องดูแลตัวอง ดูแลบ้านเกิดของตัวเอง ดูแลวิเศษไชยชาญ แต่งานใหญ่เพียงนี้ไม่อาจจทำให้สำเร็จได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง กูพยายามส่งผ่านความคิดของกู ไปยังผู้ที่มีจิตใจรักแผ่นดิน  กูมีความหวังว่าความคิดของกูคงไม่โดดเดี่ยว แล้วกูก็มีความหวังว่า ความห่วงใยบ้านเกิดจะปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้นมาพร้อมกัน เราต้องพร้อมที่จะสู้เพื่อบ้าน สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ”

“กูมีความเชื่อมั่นเสมอในสิ่งที่กูทำ ในวันนั้นกูอิ่มใจ พลังของกูมีเต็มเปี่ยม กูพร้อมแล้วที่จะหล่อหลอม ๔๐๐ นี้ให้เป็นใจดวงเดียว ”

ทำสิ่งที่ยากแสนยากให้สำเร็จ  อาศัยคาถาเพียงสี่คำ…” ร่วม แรง ร่วม ใจ” และคาถาอีกสองคำ ” แลกชีวิต

“พวกมึงทุกคนจงจำไว้นะว่า ดาบทุกเล่มมีความตายสิงสู่อยู่บนคมของมัน ต่อให้ใจมึงหาญอย่างเสือ เนื้อหนังมึงก็ทานทนมันไม่ได้ มีแต่ศาสตร์อาถรรพ์ที่ครูบาอาจารย์ถ่ายทอดมาแต่โบราณเท่านั้นถึงจะช่วยพวกมึงได้ ”

“กูสอนพวกมัน ทั้งคมดาบ คมความคิดและคมร้ายของอาคม แต่เหมือนผีบังตา กูกลับลืมสอนตัวกูเอง ความชะล่าของใจกู ความเขลาของกูนั้นเองที่ทำให้กูอ่านใจคนไม่ทะลุ”

“กูปลาบปลื้มแทนแผ่นดินนัก สิ่งที่พวกมึงตัดสินใจในวันนี้คือ ย่างก้าวแรกของความกล้าหาญ เป็นบทพิสูจน์ของหัวใจที่เสียสละ พวกเราไม่ใช่ทหาร พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่พร้อมจะสำแดงความรักและหวงแหนผืนแผ่นดินโดยไม่หวังลาภยศสรรเสริญ ลูกหลานวิเศษไชยชาญทุกคนจะจำความห้าวหาญของพวกมึงไว้เป็นเยี่ยงอย่าง  พวกมึงจะจำเอาไว้ว่าวันนี้เราจะไม่รบเพื่อวิเศษฯ แต่ดาบของเราจะรบกับศัตรูเพื่อแผ่นดินแม่”

“ในวันนั้นกูตัดสินใจเด็ดขาด ขุนน้ำขุนนางจะคิดอย่างไร จะแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างไรกูไม่สนใจ แผ่นดินเป็นนายกู กูต้องไป

“กูรู้ หลายชีวิตในวิเศษฯ กำลังตกอยู่ในห้วงทุกข์ แต่ในขณะที่แผ่นดินกำลังเดือดร้อน จะให้พวกเราดูดายได้อย่างไร เราตัดสินใจทั้งที่รู้ว่าสงครามหาใช่เรื่องสนุกคะนอง และสนามรบก็ไม่ใช่ที่จะแสดงอวดใครว่ากูเก่ง กูกล้า  ความตายนั้นแหละคือ-ของจริง  มันอาจจะเฝ้ารอเราอยู่ที่นั้น ”

“ในห้วงศึกห้วงสงคราม พวกมันยังหาได้สำนึกไม่  ยังคิดเอาประโยชน์เข้าตัว  พวกมันยังไม่สำเหนียงอีกหรือ ว่าถึงเพลาแล้วที่จะละความคิดส่วนตัว และถวายชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดิน” – เจ้าคุณรัตนาธิเบศร์

สงครามเป็นเบ้าหลอมให้ทุกคนคิดแบบเดียวกัน  กูว่าแผ่นดินดูมีค่าขึ้นในยามศึก ในเพลานั้นเจ้าคุณรัตนาธิเบศร์เป็นคนสำแดงให้กูเห็น”

“กูขอเตือนใจมึงไว้ว่า เรากำลังทำเพื่อลูกหลาน เพื่อบ้านเมือง ทำเพื่อทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินนี้ หัวใจมึงต้องรำลึกไว้ว่า ถ้าไม่มีบ้าน ก็ไม่มีวิเศษไชยชาญ เก็บน้ำตาของมึงไว้ให้มิด อย่าให้มันมาบั่นทอนน้ำใจของพวกเรา มึงจงจำเอาไว้ว่า สิ่งที่เราต้องเสียสละคือชีวิตเท่านั้น ไม่ใช่น้ำตา

“ดาบที่ดีก็ต้องเริ่มจากเหล็กที่ดี อย่างบ้านเมืองของเรา จะดีจะรุ่งเรืองได้ ก้ต้องมีคนดีเสียก่อน”

“แล้วศึกที่กูเคยคาดคิดไว้  ท้ายที่สุดก็กลายเป้นจริง กูถูกทอดทิ้งอย่างโดดเดียว ดีที่กูมีพี่น้องที่รักแผ่นดินยิ่งกว่าชีวิตร่วมตายเคียงข้าง”

“เรื่องราวทั้งหมดจบลงอนาจเกินว่าที่กูจะตัดใจ อย่าว่าแต่กูจะปกป้องผืนแผ่นดินเกิด เพียงแค่บ้านเล็กๆและคนที่กูรัก กูยังปกป้องไม่ได้

ประวัติศาสตร์ของชาติ

มักถูกเขียนด้วยเลือดของวีรชน

ขุนรองปลัดชูและกองอาสาจากวิเศษไชยชาญ ๔๐๐ คน

คือต้นธารแห่งจิตวิญญาณที่เสียสละของชาวบ้านธรรมดา

ผู้มีสิทธิ์รักและหวงแหนแผ่นดิน

ได้เท่าชนชั้นปกครอง

แต่น่าเสียดายนัก

ที่พวศษวดารบันทึกเรื่องราวของพวกท่าน

ไว้เพียงแค่ ๒ บรรทัด

………………………….

แม้นไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ รู้ว่าเรานั้นทำเพื่อใคร

ไม่ว่าวันพรุ่งนี้มันจะเป็นเช่นไร ก็จะไม่เสียใจกับสิ่งที่เราได้ทำ

ฟ้าและดินไม่เห็น ไม่เป็นไรไม่ได้หวังให้ใครจดจำ

แม้นยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ

ไม่มีใครจดจำแต่เราก้ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์ปฎิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย

ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี

ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด แม้นแต่ลมหายใจก็ยอมพลี

โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี

ศรัทธาไม่มีหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย

— คนดีไม่มีวันตาย —

 

 

 

 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , , ,

4 responses to “ขุนรองปลัดชู แม่กองอาทมาท วิเศษไชยชาญ

  1. ขุนขยับ กับ(ข้าว)พินาศ

    กรกฎาคม 20, 2011 at 9:54 am

    กุเศร้าใจนัก

     
  2. สถาปนิก นักออกแบบ ♥ (@wuzzlive)

    กรกฎาคม 14, 2012 at 8:27 pm

    ชอบครับ ขอบคุณที่นำมาแชร์

     

ส่งความเห็นที่ ขุนขยับ กับ(ข้าว)พินาศ ยกเลิกการตอบ